เปลี่ยนแม่พิมพ์ได้เร็วใน Blister Machine เพิ่มรอบการผลิตได้ทันที

เปลี่ยนแม่พิมพ์ได้เร็วใน Blister Machine เพิ่มรอบการผลิตได้ทันที

ลองจินตนาการดูว่าทุกครั้งที่คุณต้องเปลี่ยนสูตรผลิต เปลี่ยนขนาดบลิสเตอร์ หรือเปลี่ยนชนิดของแผ่นฟอยล์ในไลน์ผลิต blister คุณต้องหยุดเครื่อง แล้วใช้เวลาอีกเกือบชั่วโมงเพียงแค่ “เปลี่ยนแม่พิมพ์” ไม่ว่าจะเป็นฟอร์มมิ่ง (Forming), ซีล (Sealing) หรือปั๊มตัด (Punching) ทุกอย่างดูวุ่นวายและกินเวลาจนคุณรู้สึกว่าเสียเวลาไปเปล่าๆ

ปัญหานี้เกิดขึ้นทุกวัน และบ่อยครั้งที่มันกลายเป็นต้นทุนแฝงที่ทำให้โรงงานผลิตของคุณสูญเสียโอกาสในการสร้างรายได้ โดยที่คุณอาจไม่เคยรู้ตัวด้วยซ้ำ

แค่เปลี่ยนแม่พิมพ์ช้า ก็พาให้ทั้งไลน์สะดุด

ในสายการผลิต blister ที่มีการเปลี่ยน SKU หลายรายการต่อวัน การเปลี่ยนแม่พิมพ์ไม่ใช่แค่ขั้นตอนเล็กๆ แต่คือจุดคอขวด (bottleneck) สำคัญ ถ้าเครื่องเปลี่ยนยาก ใช้แรงคนเยอะ ต้องปรับตำแหน่งหรือขันน็อตหลายจุด ทุกอย่างจะช้าลงทันที

และเมื่อเครื่องหยุด = คุณไม่ได้เงิน

  • พนักงานยังทำงาน แต่เครื่องไม่เดิน

  • วัตถุดิบรอการผลิต แต่ยังไม่ถูกใช้

  • ออเดอร์ถูกเลื่อน หรือบางครั้งอาจโดนลูกค้ากดราคาจากการส่งของล่าช้า

เวลาที่เสียไปตรงนี้ = ต้นทุนที่ไม่เคยปรากฏในบัญชี แต่สะสมจนกระทบยอดรวมปลายเดือนอย่างแน่นอน

เสียเวลาเท่าไหร่ = เสียโอกาสเท่านั้น

สมมุติว่าแต่ละรอบเปลี่ยนแม่พิมพ์ใช้เวลา 45 นาที และคุณมีการเปลี่ยนสูตรผลิต 3 ครั้งต่อวัน เท่ากับคุณเสียเวลาไป 135 นาที/วัน หรือประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ใน 1 เดือน ก็ประมาณ 44 ชั่วโมง

ลองตีเป็นค่าจ้าง ค่าไฟ และค่าเสียโอกาสในการผลิตสินค้า = หลักแสนบาท/เดือน

แต่สิ่งที่แย่ยิ่งกว่าคือ คุณอาจเสียลูกค้า เพราะการส่งของล่าช้า หรือผลิตไม่ทันในช่วงออเดอร์พีค

ระบบ Quick-change mold คือทางออก

เครื่อง blister รุ่นใหม่ๆ เริ่มเปลี่ยนแนวคิดจาก “ทำเร็ว” มาเป็น “เปลี่ยนเร็ว” ด้วยระบบ Quick-change mold system ซึ่งออกแบบมาให้เปลี่ยนแม่พิมพ์ได้ง่าย สะดวก และเร็วที่สุด โดยไม่ต้องอาศัยทักษะช่างเทคนิค

จุดเด่นของระบบนี้:

  • ใช้ตัวล็อกพิเศษ ไม่ต้องขันน็อตหลายจุด

  • มีตัวกำหนดตำแหน่งไว้ล่วงหน้า ลดการปรับจูน

  • ถอด-ใส่แม่พิมพ์ได้ภายใน 10–15 นาที

  • พนักงานทั่วไปก็ทำได้ ไม่ต้องรอหัวหน้าช่าง

  • บางระบบสามารถบันทึกพารามิเตอร์ของแม่พิมพ์ไว้ล่วงหน้า พอเปลี่ยนแม่พิมพ์แล้ว เครื่องจะปรับให้เองอัตโนมัติ

DPP-270: เครื่อง blister ที่ออกแบบมาเพื่อ “เปลี่ยนง่าย เดินไหลลื่น”

หนึ่งในเครื่อง blister ที่ตอบโจทย์การผลิตแบบเปลี่ยนสูตรเร็ว คือ DPP-270 Blister Packing Machine
เครื่องนี้ไม่ได้เน้นแค่การเดินเร็ว 180 แผ่น/นาที แต่ยังออกแบบมาให้เปลี่ยนแม่พิมพ์ได้สะดวกที่สุดในตลาด

คุณสมบัติเด่นที่ช่วยลด Downtime จริง:

  • ระบบ quick-connect mold ในทุกจุด (form/seal/cut)
  • โครงสร้างแบบ “ระเบียง” (balcony-type) เปิดโล่ง เข้าถึงได้ง่าย
  • ติดตั้งแม่พิมพ์ใหม่ได้โดยไม่ต้องวัดใหม่ เพราะมีร่องล็อกและสเกลกำหนดจุด
  • เปลี่ยนแม่พิมพ์เสร็จโดยใช้พนักงานแค่ 1 คน
  • รองรับได้ทั้ง Alu-PVC และ Alu-Alu ในเครื่องเดียว
  • ถอด/ใส่แม่พิมพ์ได้ภายใน ไม่เกิน 15 นาที

ดูเอกสารฉบับเต็ม:
🔗 Quotation Of DPP-270 Blister Packing Machine (DOCX)

ตัวอย่างจริงจากโรงงานที่เปลี่ยนมาใช้ DPP-270

โรงงานผลิตอาหารเสริมในจังหวัดสมุทรปราการเคยใช้เครื่อง blister รุ่นเก่าที่เปลี่ยนแม่พิมพ์ทีต้องใช้เวลาร่วม 45–60 นาทีต่อรอบ และใช้คน 2–3 คนช่วยกันเปลี่ยน

หลังจากเปลี่ยนมาใช้ DPP-270:

  • เวลาเปลี่ยนแม่พิมพ์ลดเหลือ 12 นาที

  • ใช้คนเดียวก็เปลี่ยนได้

  • เพิ่มรอบการผลิตได้ 2 รอบ/วัน

  • OT ลดลง เพราะไม่ต้องเร่งตอนท้ายกะ

  • ลูกค้ารายใหม่วางใจในความต่อเนื่องของการส่งของ

บทสรุป: ทำไมการเปลี่ยนแม่พิมพ์เร็วถึง “คุ้มค่า” ที่สุด

หากคุณกำลังวางแผนลงทุนหรืออัปเกรดเครื่อง blister ในไลน์ของคุณ อย่ามองแค่ “ความเร็วในการเดินเครื่อง” เท่านั้น

เพราะในความเป็นจริง…

เครื่องที่เปลี่ยนแม่พิมพ์ได้เร็ว = เพิ่มเวลาการผลิต = เพิ่มจำนวนรอบ = เพิ่มรายได้ต่อวัน

ประโยชน์ของการเลือกเครื่อง blister ที่เปลี่ยนแม่พิมพ์เร็ว:

  • เพิ่มรอบการผลิตต่อวัน โดยไม่ต้องเพิ่มกะ

  • ลดความเครียดของพนักงาน ลดความผิดพลาด

  • ยืดหยุ่นต่อการรับออเดอร์แบบ multiple SKU

  • ลดต้นทุนแฝงแบบที่คุณเคยมองไม่เห็น

  • ใช้งานง่าย บำรุงรักษาสะดวก ไม่ต้องพึ่งช่างประจำ

ถึงเวลาเปลี่ยนมุมมองใหม่:
“เครื่อง blister ที่ดี ไม่ใช่แค่เดินเร็ว…แต่ต้องเปลี่ยนเร็วด้วย”

หากคุณกำลังมองหาโซลูชัน blister ที่เหมาะกับไลน์ผลิตหลายสูตร หลากขนาด และต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอย่างแท้จริง
DPP-270 คือคำตอบที่ใช่ที่สุดในเวลานี้

📩 ติดต่อทีม KINETEX เพื่อขอใบเสนอราคา หรือทดลองเครื่องในไลน์ของคุณได้เลย
เราพร้อมช่วยคุณเพิ่มรอบการผลิต โดยไม่ต้องเพิ่มภาระให้ทีมงาน

Share the Post:

Related Posts

ตรวจแรงกดและน้ำหนักเม็ดยาได้แม่นยำ = เม็ดยาคุณภาพสม่ำเสมอ

ลองนึกภาพดูว่า ในหนึ่งวันคุณผลิตเม็ดยาออกมากี่เม็ด?หลักหมื่น? หลักแสน? หรือบางโรงงานอาจแตะหลักล้านเม็ด/วัน ในจำนวนนี้ ถ้ามีเม็ดยาน้ำหนักเบาเกินไปแม้แค่ 5 มิลลิกรัม หรือแรงกดไม่พอจนเม็ดแตกง่าย คุณรู้ไหมว่านั่นอาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้ ล็อตนั้นไม่ผ่าน QC หรือ ถูกลูกค้าเคลมคืน ได้เลย และสิ่งที่เสียไป ไม่ใช่แค่เม็ดนั้นๆ แต่รวมถึง “ความน่าเชื่อถือของแบรนด์” ซึ่งกว่าจะได้คืนมา ไม่ง่ายเลย ในบทความนี้ เราจะมาคุยกันว่า ทำไมน้ำหนักและแรงกดของเม็ดยาถึงสำคัญ เครื่องจักรรุ่นใหม่มีเทคโนโลยีอะไรที่ช่วยควบคุมได้แบบ Real-time และทำไมหลายโรงงานจึงเริ่มเปลี่ยนมาใช้เครื่องอัดเม็ดยา GZPT-Y ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับระดับไมครอน เพื่อช่วยให้เม็ดยามีคุณภาพสม่ำเสมอตลอดล็อต ปัญหาน้ำหนักเม็ดยาไม่เท่ากัน อาจดูเล็ก…แต่ผลกระทบไม่เล็กเลย ในสายตาของผู้บริโภคทั่วไป เม็ดยาอาจดูเหมือนกันหมดแต่ในความจริง ถ้าน้ำหนักต่างกันเพียงนิดเดียว

Read More

สายการผลิตของคุณต้องหยุดงานบ่อยแค่ไหนต่อเดือน?

บางครั้งแค่การหยุดเครื่อง 10–15 นาทีดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ถ้าคุณลองนับรวมทั้งเดือนดูดีๆ คุณอาจจะตกใจว่าเวลาที่เสียไปนั้น เท่ากับ “หนึ่งอาทิตย์เต็มๆ ที่เครื่องไม่ได้ผลิตอะไรเลย” และเมื่อเวลาหยุดงานสะสมขึ้นทุกวัน… นั่นคือกำไรที่ค่อยๆ หายไปโดยที่คุณไม่รู้ตัว ในบทความนี้ เราจะชวนคุณมาเปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับ “Downtime” หรือเวลาที่ไลน์ผลิตหยุด พร้อมแนวทางแก้ไขด้วยเครื่องจักรอัตโนมัติรุ่นใหม่ เช่น KINETEX Z130 หรือ OSI120 ที่ช่วยให้เครื่องเดินลื่น ยอดผลิตไหลต่อเนื่อง และทีมงานไม่ต้องคอยวิ่งแก้ปัญหาตลอดวัน แค่หยุด 15 นาที…อาจเสียยอดผลิตหลักแสนชิ้นต่อเดือน หลายโรงงานมองว่า การหยุดเครื่องวันละไม่กี่ครั้งเป็นเรื่องปกติ เช่น หยุดเพื่อ: เช็กคุณภาพสินค้า ปรับใบพับหรือตำแหน่งกล่อง เคลียร์ปัญหาจุกจิก รีเซ็ตโปรแกรม

Read More